หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
BAY
บล.กรุงศรี : Money Wizard
 
Daily Strategy 
" กังวล Trade war " 
          ตลาดหุ้นวานนี้: SET Index ปรับตัวลงแรง -9.13 จุด (-0.53%) ปิดที่ระดับ 1,718 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท จากความกังวล Trade war หลังปธน.ทรัมป์เผยว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐจีนยังไม่คืบหน้าและขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีแรงขายกลุ่ม Energy และ Petro หลังราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรง ส่วนนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีก 682 ล้านบาท รวมถึง Net Long TFEX จำนวน 6,733 สัญญา แต่ในตลาดพันธบัตรเป็นฝั่งขายสุทธิ 3,645 ล้านบาท
          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET อ่อนตัวลงทดสอบ 1,710 จุด จากความกังวล Trade war ระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยังไม่มีความคืบหน้าและสหรัฐขู่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ อีกทั้ง Beige book วานนี้ภาคเอกชนยังมีความกังวลต่อผลกระทบสงครามการค้าด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลงและกดดันต่อทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงหลังสต๊อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าคาดและสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-อิหร่านผ่อนคลายลงซึ่งเป็นลบต่อ Sentiment กลุ่มพลังงาน ดังนั้นให้เน้นการเข้าซื้อช่วงอ่อนตัวโดยเน้น Selective ในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน เช่น งบ 2Q19 เติบโต, ปันผลครึ่งปีเด่น และกลุ่มเดินเรือ
 
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy     
          - กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q19 จะเติบโตขึ้น (PTTEP, EA, BGRIM, GPSC, CKP, CPF, GFPT, TFG, CPALL, MTC, THANI, VGI, PLANB, MINT, VNT, WORK, MAJOR, JMT, PRM) 
          - กลุ่มขนส่งทางเรือ (PSL, TTA) อานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปีล่าสุด 2,064 จุด  
          - หุ้นปันผลครึ่งปีเด่น (INTUCH, ADVANC, KKP, TCAP, LH, QH) 
 
          หุ้นแนะนำวันนี้: BCH (ปิด 14.9 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 19.8 บาท) เรามองว่าราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนงบ 2Q19 ที่คาดว่าจะชะลอตัวไปแล้วและเรามองว่าตลาดวิตกกังวลกับการเติบโตของศูนย์ WMC ที่แจ้งวัฒนะมากเกินไป ดังนั้นการลดลงของราคาหุ้นจึงเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อสะสมคาดหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการและราคาซึ่งกำลังจะเข้าสู่ High season ของธุรกิจในช่วงไตรมาส 3, TU (ปิด 19 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 21.4 บาท) คาดผลกำไร 2Q19 เติบโตโดดเด่นจากต้นทุนทูน่าที่ลดลงราว 38%yoy ส่งผลให้ GPM รวมของ TU น่าจะสูงขึ้นจาก 13.8% ใน 1Q19 ไปเป็น 16% ซึ่งผลบวกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเนื่องไปจนถึง 3Q19  
          KSS report วันนี้: DELTA (ปิด 59.75 ถือ /เป้า 55), HANA (ปิด 28.75 ขาย /เป้า 21), KCE (ปิด 18.2 ขาย /เป้า 15), SVI (ปิด 4.26 ขาย /เป้า 3.4) 
 
ประเด็นสำคัญวันนี้:
          (-) ดาวโจนส์ลดลง 116 จุด ผิดหวังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และตลาดยังกังวลกับผลกระทบของปัญหาสงครามการค้า: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 116 จุด (-0.42%) ปิดที่ 27,220 จุด เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลังจากบริษัทซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลกำไร 2Q19 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ ขณะที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ในปีนี้ลง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐ (Beige Book) ซึ่งระบุว่าภาคเอกชนของสหรัฐยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้า และเริ่มเห็นผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวมากขึ้นหลังจากที่มีบริษัทจดทะเบียนจำนวนหนึ่งย้ายสายการผลิตที่ใช้วัสดุนำเข้าจากจีนไปยังประเทศอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบายกีดกันการค้าจากสหรัฐ
          (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาด : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 84 เซนต์ (-1.5%) ปิดที่ระดับ 56.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และเป็นระดับเกือบต่ำที่สุดของเดือน ก.ค. เนื่องจากนักลงทุนผิดหวัง EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลงเพียง 3.1 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดในอิหร่านเริ่มลดลงหลังจากมีรายงานว่า อิหร่านพร้อมเจรจากับสหรัฐหากสหรัฐยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่ออิหร่าน  
          (+/-) 18-19 ก.ค. ติดตามกลุ่มธนาคารประกาศงบ 2Q19 ภาพรวมยังไม่ดี สินเชื่อยังไม่โต ค่าฟรีลด และยังมีค่าใช้จ่ายจากกฏหมายแรงงานฉบับใหม่คอยกดดัน : ธนาคารที่มีกำหนดจะประกาศงบวันนี้คือ TCAP, SCB และ BBL ขณะที่ KBANK, KTB และ KKP จะประกาศงบในวันพรุ่งนี้ โดยภาพรวมคาดผลกำไรของกลุ่มธนาคารจะหดตัวทั้ง qoq และ yoy เนื่องจากสินเชื่อรวมยังไม่ได้เร่งตัวขึ้นเนื่องจากถูกกดดันจาก GDP ของประเทศที่ชะลอตัว ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมยังคงลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น มีค่าใช้จ่ายการลงทุนในระบบไอที เพิ่มขึ้นอีกทั้งบางธนาคารยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ โดยเบื้องต้น Consensus คาด KKP และ BBL จะเป็น 2 ธนาคารที่มีผลกำไรโดดเด่นที่สุดใน 2Q19   
          
          นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
          อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475 
 
          นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
          ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
 
          ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
          ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
          ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!