หมวดหมู่: การศึกษา

07162 CIBA


 

CIBA ผนึกเอกชน ปั้นนักบัญชี คู่คิดเจ้าของธุรกิจ

        CIBA มธบ. ลงนาม 5 บริษัทด้านบัญชี ร่วมพัฒนาหลักสูตร ใช้ซอฟต์แวร์ บล็อกเชน เทคโนโลยีสร้างนักบัญชียุคใหม่ คิดวิเคราะห์ จัดการข้อมูล เข้าใจธุรกิจ ตลาด เป็นเพื่อนคู่คิดผู้ประกอบการช่วยให้บริษัทก้าวหน้า ไม่ใช่ผู้บันทึกข้อมูล เชื่อ AI แทนนักบัญชีไม่ได้ หากรู้จักปรับตัว ผู้ประกอบการ เผยไทยขาดแคลนนักบัญชีคิด วิเคราะห์ จัดการข้อมูลเป็น หวังจับมือมหาวิทยาลัยปั่นนักบัญชียุคใหม่ตอบสนองความต้องการ

       วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือกับ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท แอ็คโคเมท จำกัด, บริษัท ไอเอ ซิกเนเจอร์ จำกัด, บริษัท ไอ.เอ.พี. อินเทอร์นอล ออดิท จำกัด, บริษัท การบัญชีไทย จำกัดและ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เพื่อร่วมกันพัฒนานักบัญชีรุ่นใหม่ให้มีทักษะคิดวิเคราะห์รู้จักบูรณาการข้อมูลต่างๆ ให้สอดคล้องกับธุรกิจ และมีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในงานตรวจสอบหรือการปฏิบัติงานจริง เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล

       ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มธบกล่าวว่านักบัญชียุคใหม่จะไม่ใช่เป็นเพียงผู้ลงบัญชี แต่ต้องเป็นนักบัญชีมีทักษะความเป็นมนุษย์มีคุณค่ามากกว่านั้น ทั้งการคิดวิเคราะห์ เป็นคู่คิดเจ้าของธุรกิจ เพราะนักบัญชีรู้ทุกอย่างขององค์กร ต้องสามารถบูรณาการจัดการข้อมูล กลั่นกรองข้อมูล เพื่อประโยชน์ผู้บริหารเจ้าของธุรกิจ และมีทักษะในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้งานบัญชีมีประสิทธิภาพมากที่สุดต่อองค์กรธุรกิจ แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมานักบัญชีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น พวกเขาได้เรียนรู้ทุกเรื่องแต่บางวิชาก็ไม่ได้ใช้ อีกทั้งไม่รู้จักการบูรณาการหรือนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ ดังนั้น ความร่วมมือระหว่าง CIBA กับทั้ง 5 บริษัท จะเป็นการสร้างนักบัญชียุคใหม่ที่มีมุมองใหม่ ใช้เทคโนโลยีทำให้งานบัญชีง่ายขึ้น ลดกระบวนการที่ซับซ้อน รู้จักกลั่นกรอง วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจในการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้า

       ความร่วมมือครั้งนี้จะนำสู่การพัฒนารายวิชาต่างๆ วิชาอะไรที่นักบัญชีควรเรียนรู้ จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทของนักบัญชีรุ่นใหม่ รู้จักการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือใหม่ๆ เพราะบริษัทที่เข้ามาร่วมมือเป็นบริษัทที่มีการใช้ซอฟต์แวร์ มี AI มีบล็อกเชนในกระบวนการพัฒนาบัญชี มีบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการความเสี่ยง ตรวจสอบภายใน และทำบัญชี ซึ่งแต่ละบริษัทมีแก่นต่างกัน ซึ่งเราจะนำจุดเด่นแต่ละบริษัทร่วมกับ CIBA ในการสร้างกระบวนการเรียนการสอนระบบการพัฒนานักศึกษาบัญชีให้มีทักษะที่ตอบโจทย์โลกแห่งอนาคตดร.พัทธนันท์กล่าว

       ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดี CIBA มธบกล่าวว่า การพัฒนานักบัญชีมีความจำเป็นต้องมีภาคีร่วม เพราะนักศึกษาบัญชีไม่ได้เป็นผู้บันทึกบัญชีเหมือนในอดีต ดังนั้น นักศึกษาต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยี และภาคีในครั้งนี้ทุกบริษัทล้วนมีเครื่องมือเทคโนโลยีให้นักศึกษาได้เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะ AI ให้นักศึกษาได้เข้าใจว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนคน แต่เข้ามาช่วยคนได้หากคนรู้จักปรับปรุงและเข้าใจ อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้แก่นักศึกษาด้วยว่า อาชีพนักบัญชีไม่ได้หายไปจากโลกนี้ อย่างที่ถูกกล่าวว่าจะเป็นอาชีพแรกๆ ที่หายไป นักบัญชีไม่หายไปแต่นักบัญชีต้องใช้ความคิดมากขึ้น วิเคราะห์มากขึ้น เพราะไม่ว่าอย่างไรผู้บริหารส่วนใหญ่ต้องใช้ข้อมูลจากนักบัญชี ดังนั้น การนำเสนอและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้บริหารตัดสินใจเรื่องนี้ AI ทำไม่ได้แต่คนทำได้

       นักศึกษาบัญชีจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ได้เข้าใจวิชาชีพตนเองมากขึ้น และรู้ว่าเรียนบัญชีไม่ได้มีวิชาชีพเดียว แต่ยังสามารถไปทำงานเป็นผู้ตรวจภายใน ผู้บริหารความเสี่ยง อีกทั้งนักศึกษาจะได้ไปฝึกปฎิบัติงานใน 5 บริษัทที่มีความแตกต่างตั้งแต่ตอนเรียนและไปฝึกงานอีก 1 ปี รวมถึงมีรายได้ค่าตอบแทนจากบริษัทต่างๆ หากนักศึกษาได้ไปทำบัญชีให้แก่บริษัทนั้นๆ เรียกได้ว่าได้ทั้งทักษะความรู้ ประสบการณ์ การใช้เทคโนโลยี เครื่องมือใหม่ๆ มีรายได้ พัฒนาตนเองให้ตอบโจทย์ภาคธุรกิจอย่างแท้จริงดร.ศิริเดชกล่าว

       ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็คโคเมท จำกัด เล่าว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้มีโอกาสเข้ามาพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัย เนื่องจากนักศึกษาบัญชีที่จบไปในขณะนี้ จะไม่มีความพร้อมและไม่ตรงกับความต้องการของตลาดภาคธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงเกิดคำถามว่าแล้วนักบัญชีแบบไหนที่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมหรือตลาดต้องการ ความร่วมมือครั้งนี้ทางบริษัทจะร่วมพัฒนาปรับปรุงรายวิชา โดยปีแรกจะเริ่มใน 1 รายวิชา เพื่อสร้างรายวิชาที่เหมาะสมในการสร้างนักบัญชียุคใหม่ที่ มีทักษะคิดวิเคราะห์ รู้จักใช้เครื่องมือในการทำงาน และได้ทำงานจริงจากบริษัทจริง

       ภาพของนักบัญชีไทยจะเป็นการทำงานโดยกรอกข้อมูล ซึ่งทำให้นักบัญชีรุ่นใหม่ที่จบไปเขาไม่อยากทำงานตรงนี้ และการกรอกข้อมูลที่ต้องการความแม่นยำ ใช้แรงงานสูงแต่ไม่ใช้สมองมาก เรื่องเหล่านี้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานแทนได้ ส่งผลให้นักบัญชีรุ่นใหม่เมื่อจบออกมาก็ไม่ทำงานบัญชี ทั้งที่ความต้องการของนักบัญชีรุ่นใหม่ คือ นักคิด เข้าใจธุรกิจภาษี  บริหารความเสี่ยง และจากผู้เป็นแรงงานบันทึกข้อมูล ต้องเป็นแรงงานที่ฉลาดและใช้ข้อมูลเป็น ซึ่งถ้าพูดแบบนั้นเด็กจะไม่เห็นภาพ เพราะรูปแบบการลดงานบันทึกข้อมูลขณะนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือกับ CIBA มธบ. จะเป็นการออกแบบปรับปรุงรายวิชาที่ตรงกับความต้องการของเด็ก ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ เนื่องจากขณะนี้ไทยกำลังขาดนักบัญชีที่มีความรู้ ความคิด รู้จักการใช้ข้อมูลดร.พณชิต กล่าว

       ดร.พณชิต กล่าวต่อว่า นักบัญชีมีคุณค่ากับธุรกิจอย่างมาก เพราะบัญชีคือการบันทึกข้อมูลทางด้านการเงินที่วิ่งไปวิ่งมาในบริษัท ซึ่งเงินที่วิ่งไปในแต่ละส่วนของบริษัทเปรียบเสมือนเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ นักบัญชีจะเป็นผู้ที่เห็นภาพรวมของการทำงานบริษัทได้ดีที่สุดผ่านการใช้เงิน เนื่องจากเงินคือตัวขับเคลื่อนบริษัท สิ่งที่นักบัญชีเห็นจึงไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลขเงิน แต่สามารถเห็นความเสี่ยง โอกาส กลยุทธ์ในการจัดการการเงิน เห็นรอยรั่วและรู้ถึงการบริหารจัดการที่จะทำให้ธุรกิจดีขึ้นได้ นักบัญชีควรจะเป็นเหมือนแพทย์ที่เข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของร่างกายและควบคุมร่างกายให้ดีขึ้นได้ ปัจจุบันเด็กจบมาเด็กจะรู้ทุกเรื่องของบัญชี แต่เด็กไม่สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้เข้าด้วยกันได้ มหาวิทยาลัยและภาคเอกชนต้องร่วมกันสร้างนักบัญชีที่รู้จักการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลและวิเคราะห์นำข้อมูลเหล่านั้น มาก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ

       นายธีรบูลย์ อริยสุทธิวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า บริษัท บิลค์ วันฯ ได้มีการพัฒนาจัดทำบล็อกเชนช่วยคนบัญชีเพื่อให้ทำงานได้เร็วมากขึ้น โดยขณะนี้มีบริษัทใหญ่ของประเทศไทยได้นำบล็อกเชนไปใช้ ทำให้นักบัญชีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรวดเร็วขึ้นจากเดิมที่ต้องทำงานกลับบ้านประมาณ 5 ทุ่ม ตอนนี้กลับบ้านประมาณ 5 โมงครึ่ง ซึ่งบล็อกเชนที่ใช้เป็นการนำนวัตกรรมมาช่วยชีวิตคน ดังนั้น นวัตกรรมเทคโนโลยีไม่สามารถแทนคนได้ หากคนทำตัวเป็นมนุษย์ ใช้ความสามารถในการเป็นมนุษย์ คิดวิเคราะห์ รวบรวม จัดการข้อมูล หรือจัดวางระบบการทำงานของธุรกิจ ทำเรื่องที่มนุษย์ทำได้ดี อย่าไปทำในเรื่องที่เทคโนโลยีทำได้

       ผมไม่เคยเชื่อเวลามีข้อมูลบอกว่า นักบัญชีจะเป็น 10 อาชีพที่ตกงาน เพราะคนเหล่านั้นไม่เข้าใจงานบัญชีจริง อยู่ที่งานบัญชี 70% เป็นเรื่องการบันทึกข้อมูล แต่นักบัญชีทำอะไรได้มากกว่านั้น และบริษัท 5 แสนแห่งในประเทศไทยยังต้องการนักบัญชีที่มีคุณภาพ นักบัญชีที่เป็นมนุษย์ อยากฝากนักบัญชีรุ่นใหม่ ขอให้เชื่อในวิชาชีพและพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอนายธีรบูลย์กล่าว

 

 

AO07162

3

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!