หมวดหมู่: บทวิเคราะห์

logo ace


บล.เออีซี : Daily Focus

AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index  แกว่งพักตัวไม่หลุด 1,655 จุด เพื่อลุ้นรีบาวด์แนวต้าน 1,680 และ 1,695 จุดตามลำดับ คาดเจอแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงกว่า 5.7%DoD  ขณะที่ นลท.ยังติดตามผลการประชุม FED วันนี้ เพื่อกำหนดแนวทางนโยบายทางการเงินประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,655-1,670 จุด
•    Market Factor
•    (-) สัญญาน้ำมันดิบWTI และBrent วานนี้ปรับลง 5.7%DoD และ 6.5%DoD หลังรัฐมนตรีพลังงานของ ซาอุฯ เชื่อว่าจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้
•    (watch) จับตาผลการประชุมFed ในคืนนี้หลังตลาดให้ความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลงจากCME FedWatch มีความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 51.9% จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง
•    (-) ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน ส.ค.62 อยู่ที่ 81,549 คัน ลดลง 20.45%YoY เนื่องจากยอดขายรถในประเทศคู่ค้าลดลงจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่45,694.98 ลบ. ลดลง 18%YoY ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เดือน ส.ค.62 มีจำนวนทั้งสิ้น 80,838 คัน ลดลง 6.9%YoY (อินโฟเควสท์)
•    (-) ส.อ.ท.รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค.62 อยู่ที่ระดับ 92.8 ปรับตัวลดลงจากระดับ 93.5 ในเดือน ก.ค.62  ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 102.9 (จาก 102.3 เดือน ก.ค.)จากผลบวกกิจกรรมส่งเสริมการขายและการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ รวมทั้งผลจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศของภาครัฐ (อินโฟเควสท์)
•    (+) กบง. มีมติเห็นชอบ ปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของเบนซิน 1 บาทต่อลิตร และดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ในซาอุฯ (ข่าวสด)
•    Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 99.14บาท หรือลดลง 13.90%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อในตลาดหุ้นไทย 886.13ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 5,036.48ลบ.(ขณะที่รายย่อยและสถาบันซื้อสุทธิรวมกัน 1,198.88ลบ.)
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เราประเมิน SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,690 จุด โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องติดตาม คือ      ผลการประชุม Fed ในสัปดาห์นี้ (17-18 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมา Short Future อีกครั้ง ดังนั้นเราแนะนำให้นักลงทุนระวังแรงขายทำกำไรกดดันตลาด และแนะนำทยอยเก็บหุ้น 4 กลุ่ม ที่ย่อตัวลงมา ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัวHoHจากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.),CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), ERW (ช่วง 2H62หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค. โต 15.6%YoY)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaround ของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่), III (ช่วง 2Q62 กำไรโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการ          โลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
•    หุ้นที่ได้ประโยชน์จากน้ำท่วมในภาคเหนือ/อีสาน: เราเลือก SPC, DOHOME, GLOBAL, DCC
•    Trading Idea
•    กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีความหวานของเครื่องดื่ม : เราแนะนำ Short Selling หรือ Short  Against Port ในหุ้น ICHI

    17-Sep-19    Change (pts.)    16-Sep-19
SET Index    1,663.93    1.00    1,662.93
SET50 Index    1,107.82    1.79    1,106.03
SET100 Index    2,442.14    2.20    2,439.94

 

High    1,670.62    Gainers    734
Low    1,659.14    Unchanged    423
Value (Bt m)    73,344.07    Losers    878
Volume (*000)    20,373,190         

Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.8    15.1    15.1
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -0.8
EV/EBITDA (x)    11.7    10.7    10.2
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.7
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.6
ROE    10.7    10.9    11.0

Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    17-Sep-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (693.75)    (2,404.19)    774.24    33,192.88
Proprietary    (106.74)    (339.41)    3,837.59    11,246.22
Foreign     (886.13)    183.16    (5,036.48)    1,392.47
Individual    1,686.62    2,560.44    (424.66)    (45,831.57)

AECS ( Fundamental and Strategic Team )

จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!